สิ่งที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู3 ณ รร.วัดวนาราม

1.งานวิชาการ

โรงเรียนจัดนักเรียนเข้าชั้นเรียนแบบคละกันทั้งเด็กเก่งเด็กอ่อน
1. โรงเรียนจัดนักเรียนเข้าเรียนแต่ละห้องโดยคละเด็กเก่งและเด็กอ่อน
2. โรงเรียนจัดครูเข้าสอนแต่ละชั้นเรียนโดยรับผิดชอบสอนเกือบทุกวิชา
3. การจัดตารางสอนของโรงเรียนแบบยืดหยุ่น
4. โรงเรียนกำหนดให้ครูต้องทำแผนการสอนจัดการเรียนรู้ส่งฝ่ายวิชาการ
5. โรงเรียนมีเอกสารหลักสูตรให้บริการแก่ครูไม่เพียงพอ
6. โรงเรียนมีงบประมาณสนับสนุนการทำสื่อการสอน
7. โรงเรียนมีสื่อการสอนที่ทันสมัยปานกลาง
8. สื่อการสอนที่ทันสมัยที่โรงเรียนมีดังนี้
- คอมพิวเตอร์
- เครื่องขยายเสียง
- เครื่องเล่นเทป
9. สื่อการสอนที่ครูจัดทำขึ้นเองในแต่ละกลุ่มวิชามีดังนี้
- รูปภาพ
- ใบงาน
- ใบความรู้
- บัตรคำ
- เพลง
- เกมส์

2.งานในหน้าที่ของครูผู้สอน
ชื่อ อาจารย์ บังอร ภักดีบุญ ครูประจำ ชั้น ป.6 วิชาภาษาอังกฤษ
2.1. งานด้านการสอน
1.1 ชั่วโมงสอนของครูเฉลี่ย 21-25 คาบต่อสัปดาห์
สอน 5วิชา คือ ภาษาอังกฤษ ศิลปะ พละ การงานพื้นฐานอาชีพ ลูกเสือ/แนะแนว
1.2 หัวข้อในแผนการจัดการเรียนรู้ที่ครูทำได้แก่
(1) สาระสำคัญ
(2) ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
(3) จุดประสงค์การเรียนรู้
(4) พฤติกรรมที่พึงประสงค์
(5) สาระการเรียนรู้
(6) สื่อ/แหล่งเรียนรู้
(7) การวัดการประเมินผล
(8) กิจกรรมเสนอแนะ
1.3 ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการสอน ครูต้องทำคือ
(1) เตรียมแผนการสอน (2) ศึกษาเนื้อหาวิชา
(3) เตรียมสื่ออุปกรณ์ (4) เตรียมการสอน/กิจกรรม
1.4 การจัดห้องเรียนสิ่งแวดล้อมในการส่งเสริมความน่าเรียนได้แก่
(1) จัดป้ายนิเทศน์ (2) จัดบอร์ดนิทรรศการ
(3) จัดมุมแสดงผลงานนักเรียน (4) จัดมุมให้สาระความรู้
(5) บอร์ดกติกาในชั้นเรียน (6) รายชื่อสมาชิกในชั้นเรียน
1.5 ในการวัดและประเมินผลสิ่งที่ครูทำได้แก่
(1) สังเกตุพฤติกรรมนักเรียนขณะที่เรียน
(2) ใช้แบบสอบถาม ทดสอบ สัมภาษณ์
(3) ตรวจผลงาน ตรวจแบบฝึกหัด
(4) ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง และให้เพื่อนและผู้ปกครองร่วมประเมิน
1.6 มีการเรียนซ่อมเสริมในวิชาภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ในคาบสุดท้ายของวันจันทร์ และวันพุธ สลับกันไป เวลา 14.30น.-15.30น. นักเรียน 15-16 คน
1.7 ครูมีบทบาทในชั้นเรียนเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย
(1) ถ่ายทอดความรู้
(2) ผู้จัดกิจกรรม
(3) ช่วยเหลือแนะนำ
(4) จัดชั้นเรียน
(5) ผู้ควบคุมวินัย
1.7.2 ครูใช้วิธีสอนได้แก่(เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย)
(1) บรรยาย
(2) สาธิต
(3) สถานการณ์จำลอง
(4) บทบาทสมมุติ
(5) ทักษะกระบวนการ
(6) แบ่งกลุ่ม
(7) ทดลอง
(8) อภิปราย
(9) วิทยาศาสตร์
(10) ศูนย์การเรียน
(11) ศึกษานอกสถานที่
(12) ให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง
1.7.3 งานที่ครูมอบหมายให้นักเรียนทำได้แก่(เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย)
(1) ทำงานฝึกหัด
(2) อ่าน
(3) รายงานหน้าชั้น
(4) เขียน
(5) จัดป้ายนิเทศ
1.7.4 กิจกรรมที่ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนได้แก่(เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย)
(1) เป็นกลุ่ม
(2) รายบุคคล
(3) ทั้งห้องเรียน

2.2.งานธุรการในชั้นเรียน
2.1 งานธุรการในชั้นเรียนที่ครูต้องทำได้แก่
(1) แบบบันทึกผลการพัฒนาคุณภาพนักเรียน(ปพ5.)
(2) แบบรายงานผลพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นรายบุคคล
(3) สมุดรายงานผลนักเรียนรายบุคคล
(4) บัตรสุขภาพ
2.2 รายการที่ครูต้องทำในสมุดบัญชีเรียกชื่อได้แก่
(1) ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน
(2) ตารางสรุปผลคะแนนการเรียนของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้
(3) สรุปผลการเรียนรู้ของนักเรียน
(4) ผลสัมฤทธิ์ของการเรียน
(5) สรุปผลการประเมิน
(6) บัญชีเรียกชื่อ
2.3 ความสำคัญของบัญชีเรียกได้แก่
(1) ทำให้ทราบข้อมูลของนักเรียนรายบุคคล
(2) ดูเวลาการมาเรียนของนักเรียนว่าครบหรือไม่ตามกำหนด
2.4 สมุดประจำตัวนักเรียนมีประโยชน์คือ
(1) เพื่อความก้าวหน้าของนักเรียน
(2) บอกผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้
(3) บอกผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสลค์
(4) สรุปผลการประเมินเลื่อนชั้น
3. ครูทำการอบรมนักเรียนในเวลา
(1) ตอนเช้าหน้าเสาธง
(2) ในคาบเรียน
(3) ในวันสุดสัปดาห์
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความประพฤติและความมีคุณธรรมจริยธรรม
4. งานอื่นๆ
4.1 (1) เวรประจำวัน รับ-ส่ง นักเรียน
(2) เวรยามรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ
(3) เวรอาหารกลางวัน

2.3งานด้านการวัดและประเมินผล
1. หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการวัดและประเมินผลโครงการของโรงเรียน
คือ ส.พ.ท. (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา) มีบุคลากรในหน่วยงาน คือ ศึกษานิเทศน์
หน้าที่ของหน่วยงานนี้คือ ติดตามผลประเมินความก้าวหน้าทางวิชาการและโครงการที่ได้รับมอบหมาย
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลการเรียนการสอนโดยเรียงจากเครื่องมือการวัดผลที่ใช้มากไปหาน้อย
1. แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
2. แบบทดสอบวัดผลประเมินผล
3. แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม/รายบุคคล
3. แบบทดสอบที่ใช้ในโรงเรียนได้มีการตรวจสอบคุณภาพ(วิเคราะห์)หรือไม่
ตรวจสอบโดยฝ่ายวิชาการ
ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบคือ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ และผู้บริหารการศึกษา
4. การประเมินผลปลายปีของแต่ละระดับชั้น ใช้แบบทดสอบจากที่ใด (โรงเรียน, กลุ่ม, อำเภอ, จังหวัด, เขตพื้นที่การศึกษา, กรมวิชาการ)
โรงเรียนประเมินผลปลายปีของแต่ละชั้น
สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประเมินโดยใช้ข้อสอบ NT เฉพาะบางช่วงชั้น
5. แบบบันทึกการวัดและประเมินผลที่ครูประจำชั้นใช้มีดังนี้
(1) แบบวัดผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
(2) แบบเก็บคะแนน
6. วิธีการสอนซ่อมเสริมที่ครูประจำวิชาใช้ ทำอย่างไรบ้าง
(1) คัดเลือกนักเรียนที่เรียนช้ากว่าปกติ
(2) ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
(3) ให้นักเรียนเรียนรู้จากเนื้อหาที่นักเรียนไม่เข้าใจ
(4) สอบประเมินผลหลังการเรียนอีกครั้ง

2.4.งานสื่อการสอนและโสตทัศนูปกรณ์
1. โดยทั่วไปครูใช้สื่อการสอนเกือบทุกครั้งที่สอน
2. สื่อการสอน
2.1 ประเภทเครื่องมือโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย
1. เครื่องขยายเสียง
2. คอมพิวเตอร์
2.2 ประเภทวัสดุโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย
1. บัตรคำ
2. รูปภาพ
3. สถานการณ์จำลอง
4. สื่อของจริง
5. บทบาทสมมุติ
3. แหล่งที่มาของสื่อการสอน
- ผู้สอนผลิตของโดยใช้งบจาก งบประมาณส่วนตัวของผู้สอน และงบประมาณแผ่นดิน
4. โรงรียนมีศูนย์/ห้องบริการสื่อในโรงเรียนที่อยู่เป็นเอกเทศ โดยมีครูจากสาระการเรียนรู้เป็นผู้ให้บริการ และเปิดบริการโดยกำหนดเวลาใช้งานได้เฉพาะเวลาเรียน
- โรงเรียนมีห้องโสตทัศนศึกษา โดยมีอาจารย์ วนิดา ยอดแก้วเป็นผู้รับผิดชอบ

3.การสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน
สภาพนักเรียนโดยทั่วไปของโรงเรียนวัดวนาราม

1. สุขภาพอนามัย เช่น ความสะอาดของเครื่องแต่งกายการรักษาสุขภาพอนามัย ร่างกาย การรับประทานอาหาร

-นักเรียนส่วนก็แต่งกายสะอาดเรียบร้อยดี มีเพียงบางส่วนที่ดูยับและสกปรก น.ร.ที่นี่ค่อนข้างจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เช่น นม ไข่ ถั่วข้าวและยังได้รับการส่งเสริมให้ดื่มนมด้วย

2. สังคมเช่น การปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน การเล่น การเรียน การคบเพื่อน การสัมพันธ์กับครู-นักเรียนจะเล่นกันเป้นกลุ่มซึ่งนักเรียนในช่วงชั้นที่1ส่วนใหญ่จะชอบเล่นกระโดดยาง และเล่นเป็นพ่อแม่ลูก ส่วนนร.ในช่วงชั้นที่2จะชอบเล่นฟุตบอลในส่วนของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงบางส่วนก็เล่นกระโดดยาง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ประพฤติผิดกฎของโรงเรียน มีน้ำใจและชอบอาสาช่วยเหลืองานครู

3. เศรษฐกิจ เช่น สภาพการแต่งกาย การใช้จ่ายการเงินที่ได้รับ

-นักเรียนส่วนใหญ่แต่งกายเรียบร้อยแต่เป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างเก่าและได้เงินมาใช้จ่ายไม่มากนักเนื่องจากผู้ปกครองของนักเรียนส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวน รับจ้าง และนักเรียนส่วนใหญ่ก็มีปัญหาคล้ายคลึงกันในเรื่องพ่อแม่หย่าร้างต้องอาศัยอยู่กับตาหรือยาย

4. การเล่าเรียน เช่น การมาโรงเรียน ความสนใจในการเรียน การใช้เวลาว่าง การใช้ห้องสมุด

-นักเรียนส่วนใหญ่จะมาโรงเรียนแต่เช้าและมีความสนใจในการเรียนแต่มีเพียงนักเรียนชั้นป.5ที่ดื้อ และไม่สนใจในการเรียนและสร้างความหนักใจให้แก่ครู และนักเรียนโดยส่วนรวมก็ใช้เวลาว่างในการเล่นมากกว่าการอ่านหนังสือหรือเข้าห้องสมุด